สำหรับ
SmartClinic
3.0 - 3.0 Plus
หากต้องการ
สำรองข้อมูลไว้จะทำอย่างไร?
ป้องกันไว้ว่าหากเครื่องติดไวรัสหรือฟอร์แมทเครื่องใหม่
จะทำให้ข้อมูลคนไข้หายหมด?
ซอฟต์แวร์
SmartClinic มีระบบสำรองข้อมูลไว้ให้แพทย์สำรองได้ทุกวัน
หรือทุกสัปดาห์ก็ได้ โดยจะสำรองเป็น
ZIP File วิธีการสำรองข้อมูล มีดังนี้
ขั้นตอนการสำรองข้อมูล
- กดปุ่ม "
เปิดโปรแกรมสำรองข้อมูล" จากนั้น
โปรแกรมสำรองข้อมูลจะแสดงขึ้นมา ประกอบด้วย
3 หน้าจอหลักคือ
"Backup Database" " Restore
database" และ Delete
backup file"
- การสำรองข้อมูลซอฟต์แวร์
SmartClinic 3.0
ให้เลือกที่หน้าจอ "Backup
database" จากนั้น เลือก
Path เป็น
C:\mysql\data
จากนั้นแฟ้มข้อมูลที่อยู่ใน
Path
C:\mysql\data
จะแสดงออกมา
-
ให้เลือกโฟล์เดอร์ที่ชื่อ
"Clinic4" จากนั้นให้กดปุ่ม
"Backup database"
-
เมื่อกดปุ่ม "Backup database"
แล้วโปรแกรมจะทำการสำรองข้อมูลและหากมีหน้าจอสีดำขึ้นมา
กรุณาอย่าปิดหน้าจอนั้น
เนื่องจากหน้าจอนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสำรองข้อมูล
-
เมื่อโปรแกรมสำรองข้อมูลทำงานเสร็จสิ้น
ระบบจะแจ้งเตือนให้ทราบเองว่า
ได้ทำการสำรองข้อมูลเสร็จแล้ว
-
เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้นให้ปิดโปรแกรมสำรองข้อมูล
ถือเป็นการเสร็จสิ้นการสำรองข้อมูล
ส่วนในกรณีที่ต้องการ
ดึงไฟล์ที่สำรองไว้กลับคืนก็สามารถเลือกที่แฟ้ม
"กู้คืนข้อมูล" จากนั้นเมื่อกดปุ่ม"เปิด
โปรแกรมกู้คืนข้อมูล" ให้เลือกไฟล์
ZIP ที่ได้สำรองไว้
เพื่อนำกลับมาใช้โดยเลือกที่ไฟล์นั้น และกดปุ่ม
"Restore database" ข้อมูลที่สำรองไว้ก็จะถูกดึงกลับมาใช้งานกับซอฟต์แวร์ได้ดังเดิม
หมายเหตุ
การสำรองไฟล์ข้อมูลแต่ละครั้ง จะไม่ทับกัน
เพราะซอฟต์แวร์จะใส่วันที่ที่ทำการสำรอง
ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่า หากข้อมูลเกิดสูญหาย
สามารถดึงข้อมูลที่ได้สำรองไว้กลับมา
ได้ตามวันเวลาที่ระบุไว้กับไฟล์
ในกรณีที่ต้องการนำไฟล์ที่สำรองไว้
มาเก็บไว้ในแผ่นซีดีรอมหรือ เก็บไว้ในไดรฟ์อื่นๆ
ที่ไม่ใช้ไดร์ฟ C: เพื่อป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลอีกขั้นหนึ่ง
โดยสามารถทำได้ดังนี้
-
เลือกโฟลเดอร์ที่ชื่อ
C:\SmartGroup\SmartBackupRestore\Backup\
ดังรูป
ท่านจะเห็นไฟล์ที่ได้สำรองไว้แต่ละช่วงเวลา
และสามารถเลือกดึงข้อมูลกลับมาใช้งานได้
โดยอาจเลือกไฟล์ที่อัพเดทที่สุด
เพื่อข้อมูลจะได้อัพเดทมากที่สุด
หากต้องการก๊อปปี้เก็บไว้ในเครื่องอื่นก็สามารถก๊อปปี้มาไว้ที่ไดร์ฟอื่น
หรือ นำมาบันทึกเก็บไว้ในแผ่นซีดีเก็บไว้ได้
|
ซอฟต์แวร์เมื่อหมดระยะเวลาทดลองใช้แล้ว
หากซื้อชุดจริงมาใช้ข้อมูลเก่าที่กรอกไว้แล้วจะหายหรือไม่?
หากท่านที่ใช้ชุดทดลองใช้และได้กรอกข้อมูลต่างๆ
ไว้แล้ว และ ชุดทดลองหมดระยะเวลา
เมื่อซื้อชุดจริงก็สามารถลงทับไปได้เลย และ
ข้อมูลต่างๆ ก็จะอยู่ครบเช่นเดิม และ
สามารถใช้งานต่อไปได้
|
ซอฟต์แวร์นี้มีระยะเวลาใช้งานหรือไม่
หรือว่าสามารถใช้ได้ตลอดชีพ?
ซอฟต์แวร์นี้ ไม่มีระยะเวลาหมดอายุ
ท่านสามารถใช้งานได้ตลอด หากมีเวอร์ชั่นออกมา
หากท่านต้องการฟีเจอร์ที่มากับชุดใหม่ก็สามารถอัพเกรดได้
ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแต่จะถูกกว่า
ซื้อเวอร์ชั่นใหม่ทั้งชุด และ
ข้อมูลเก่ายังสามารถใช้งานได้เช่นเดิม
ส่วนการอัพเดทที่บริษัทฯเห็นว่าจำเป็นและเพิ่มเติมให้
ท่านสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ฟรี
..โดยบริษัทฯจะแจ้งให้ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ทราบเป็นระยะ
|
สามารถใช้กับ
Windows XP Service Pack 2 ได้หรือไม่?
เมื่อซื้อซอฟต์แวร์มาใช้งานแล้ว
หากเครื่องมีปัญหาต้องฟอร์แมทใหม่ จะขอรหัสใหม่ได้หรือไม่?
ได้ครับ แต่ต้องให้ฝ่าย
Technical Support บันทึกข้อมูลไว้ครับ
|
ซอฟต์แวร์นี้มีกำหนดระยะเวลาใช้งานหรือไม่
และมีค่า Maintenance หรือไม่?
ซอฟต์แวร์ SmartClinic
ไม่มีกำหนดระยะเวลาใช้งาน หรือ
ผู้ใช้สามารถใช้ได้ตลอดชีพ ค่าMaintenance
ขึ้นกับคลินิคแพทย์แต่ละแห่งว่าจะให้ทางบริษัทฯดูแลให้ด้วยหรือไม่
|
ปิดเครื่องแม่ข่ายโดยยังไม่ได้ปิดซอฟต์แวร์เพราะไฟดับ
ต่อมาก็เข้าใช้งานใหม่ ซอฟต์แวร์แจ้งว่า
มีผู้เข้าใช้ซอฟต์แวร์ครบแล้ว อยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ?
ปกติซอฟต์แวร์ตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไปจะมีการล๊อกผู้เข้าใช้ไว้ตามลิขสิทธิ์ที่ผู้ใช้ซื้อไปใช้
เช่น
เมื่อกำลังใช้งานซอฟต์แวร์อยู่เครื่องแม่ข่ายจะถูกบันทึกว่า
มีเครื่องลูกข่าย 1
เครื่องกำลังล๊อกอินเข้ามาใช้งานอยู่
ซึ่งหากเป็นซอฟต์แวร์แบบ 2
เครื่อง (Network 2 เครื่อง)
ก็จะล๊อกไว้ว่า
อนุญาตให้มีเครื่องลูกข่ายเข้ามาเชื่อมได้ 1
เครื่อง ดังนั้น
หากมีกรณีที่เครื่องแม่ข่ายปิดกะทันหัน เช่น ไฟดับ
ทำให้ซอฟต์แวร์เครื่องแม่ข่ายยังไม่ได้ลบการล๊อกอินออก
ทำให้การบันทึกผู้ใช้ยังค้างอยู่ในซอฟต์แวร์แม่ข่าย
เมื่อเปิดเครื่องแม่ข่ายขึ้นมาใหม่
ทำให้เครื่องแม่ข่ายแจ้งว่า มีผู้เข้าใช้ครบแล้ว
วิธีแก้คือ......ให้ดาวน์โหลดไฟล์นี้.กดที่นี่.....
โดยเมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้
Double Click
ที่ไฟล์นี้ (ก่อน Double Click
ให้ปิดซอฟต์แวร์ สมาร์ทคลินิกก่อน)
เมื่อเสร็จแล้ว จะได้รับไฟล์ที่ UNZIP
แล้ว 3 ไฟล์
ให้ก๊อปปี้ทั้ง 3
ไฟล์นี้ไปวางไว้ที่ไดเรคตอรี่ดังกล่าวด้านล่างนี้
และให้เปิดซอฟต์แวร์ขึ้นมาทำงานเหมือนเดิม
C:\
mysql \ data \ clinic4 \
|